วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ข้าวแตน


          ข้าวแต๋น เป็นข้าวเหนียวขาว  และข้าวเหนียวดำทอดกรอบ 
ราดด้วยน้ำอ้อยเป็นขนมโบราณของคนเมือง (คนภาคเหนือที่พูดภาษาเหนือ)  ทำเพื่อเลี้ยงแขกในงานมงคลต่าง ๆ ... เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ ... งานแต่งงาน  ข้าวแต๋นถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านอีกประเภทหนึ่งเนื่องจาก นำข้าวที่เหลือจากการบริโภคประจำวัน นำมาขึ้นรูปต่าง ๆ เช่น วงกลม  สี่เหลี่ยม แล้วตากแดด เก็บรักษาไว้ได้นาน  เมื่อต้องการรับประทานก็นำมาทอดให้สุกแล้วราดด้วยน้ำอ้อยอีกครั้งหนึ่ง

          ข้าวแต๋นเหมาะเป็นของฝากจากลำปาง  เนื่องจากจังหวัดลำปางเป็นจังหวัดที่มีการปลูกอ้อยมาก หน่วยงานรัฐจึงมาตั้งโรงงานน้ำตาลลำปางที่อำเภอเกาะคา  เป็นแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อปี 2480  ผลผลิตจากอ้อยได้แก่น้ำอ้อยหรือน้ำตาลแดงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการทำขนมข้าวแต๋นส่วนข้าวเหนียว เป็นข้าวที่จังหวัดลำปางปลูก และรับประทานทุกวันอยู่แล้วดังนั้นข้าวแต๋น ที่มีส่วนประกอบที่สำคัญเป็นข้าวและน้ำอ้อย  จึงเหมาะที่จะผลิตในจังหวัดลำปาง ซึ่งมีวัตถุดิบอยู่เป็นจำนวนมากประกอบกับประชากรวัยแรงงานของตำบลนาแก้วยังว่างงานอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้รวม
กลุ่มกันก่อตั้งจัดตั้ง กลุ่มข้าวแต๋นทวีพรรณ เมื่อ  16 พฤษภาคม  2537 

ส่วนผสม

 ข้าวสารเหนียว   5 ลิตร
-แตงโม               1 ผล
-งาขาว                1 ขีด
-เกลือป่น            1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลปี๊บ         1 ถุง
-น้ำอ้อยผง          2 ขีด
-น้ำมันพืช           ขวด
อุปกรณ์ แบบพิมพ์ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 นิ้ว สูง 1 เซนติเมตร


1.นำ แตงโม 1 ลูก มาคั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมน้ำเปล่าให้ได้ 4 แก้ว ใส่เกลือ น้ำอ้อยผง งาขาว(ถ้ามี) คนให้เข้ากัน เก็บใส่ภาชนะไว้ (ควรทำก่อนนี่งข้าว)  หมายเหตุ ถ้าไม่มีแตงโม อาจเป็นน้ำผลไม้ชนิดอื่นก็ได้   เช่น มะม่วง หรือผลไม้ตามฤดูกาล


2.นำข้าวสาร(ข้าวเหนียว) มาแช่น้ำ 1 คืน นึ่งให้สุก พักไว้ให้เย็น แล้วนำมาคลุกกับ น้ำแตงโมที่เตรียมไว้แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที


3.น้ำไปกดลงในพิมพ์ ไห้แน่นพอสมควร


4.นำข้าวออกจากพิมพ์ วางบนตะแกรง แล้วนำไปตากแดด ประมาณ 1 วันครึ่ง เมื่อแห้งแล้ว เก็บใส่ถึง มัดปากถุงให้แน่น


5.ใส่น้ำมันให้เต็มกระทะ ตั้งไฟให้ร้อนจัด เอาข้าวที่จากแห้งแล้วลงทอด ประมาณ 40 วินาที ข้าวแต๋นจะลอยชึ้น ให้ตัดออก นำมาวางบนตะแกรง เพื่อสะเด็ดน้ำมัน และพักไว้ให้เย็น



6.นำน้ำตาลปี๊บ เคียวไฟให้ตกทราย พักไว้ให้เย็นพอประมาณ แล้วนำมาหยดลงบนข้าว



7.ใช้ถุงพลาสติกสำหรับใส่อาหาร ขนาดที่ต้องการบรรจุขาย ถ้าจะให้ดี ปิดปากถุงให้มิดชิด กันลมเข้า วิธีง่ายๆ ไล่ลมออกจากถุง แล้วใช้เครื่องรีดปากถุง


ที่มา  :  http://ampornricetan-wanutpong.blogspot.com/p/blog-page.html
            http://khaotan.com/Wed%20Page/History.html



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น